วันอังคารที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2558

เทคนิคง่ายๆ สำหรับการเรียนอังกฤษ จากไม่รู้ ให้เก่งทุกด้าน

วัสดีค่ะ เพื่อนๆชาวบล๊อก...วันนี้เจ้าของบล๊อกเกอร์ไปเจอบทความดีๆจากเว็บเด็กดีดอทคอม เกี่ยวกับ15 เทคนิคเรียนภาษาอังกฤษ จากไม่รู้...ให้เก่งทุกด้าน เลยอยากขออนุญาตเจ้าของบทความความรู้และเทคนิคดีๆนี้มาลงในบล๊อกเกอร์เพื่อเอามาแชร์ให้เพื่อนๆในบล๊อกเกอร์ได้อ่านกัน ซึ่งเขียนเรียบร้อยโดยพี่มิ้นท์คนเก่งของเรา อ่านแล้วน่าสนใจมาก 


    ก่อนอื่นเจ้าของบล๊อกเกอร์ของแสดงความคิดเห็นสักเล็กน้อยก่อนนะคะ ว่าถ้าพวกเราพูดถึงการเรียนภาษาอังกฤษ เจ้าของบล๊อกเกอร์เชื่อว่า เพื่อนๆหลายคนมักจะบอกว่า เกลียดภาษาอังกฤษ เรียนยาก ท่องเยอะ บ้างก็บอกว่าเรียนไปทำไมไม่ใช่ภาษาแม่เรานิ แต่เจ้าของบล๊อกเกอร์บอกเลยนะคะ ว่าณ ตอนนี้ภาษาอังกฤษสำคัญกับทุกคนมาก อยากให้เปิดใจมาเรียนภาษาอังกฤษกัน ส่วนบางคนที่ชอบเรียนภาษาอังกฤษอยู่แล้วก็บอกว่า เรียนภาษาอังกฤษให้ได้ผล ต้องฟัง พูด อ่าน เขียนได้ หรือ สื่อสารกับชาวต่างชาติได้แค่นั้นก็พอ แกรมม่าหรืออะไรที่ถูกยัดใส่หัวเพื่อท่องสอบ ไม่ต้องไปซีเรียส ไม่จำเป็น...เพื่อนๆชาวบล๊อกจะเห็นได้ว่ามีหลากหลายความคิดเห็นมาก

      แต่สิ่งที่พวกเขาเหล่านั้นพูดมาก็ไม่ผิด แต่เจ้าของบล๊อกเกอร์อยากให้เพื่อนๆอยากให้พวกโฟกัสว่า เราไม่สามารถปฏิเสธได้ว่า จะใช้ภาษาอังกฤษให้มีประสิทธิภาพจริงๆ ทุกอย่างทุกทักษะ ไม่ว่าจะเป็นฟัง พูด อ่าน เขียน มันต้องไปด้วยกันค่ะ เชื่อกันไหมค่ะว่า บางคนสำเนียงดีมาก แต่พูดไวยากรณ์ผิดหมด บางคนแม่นไวยากรณ์มาก แต่พูดและฟังไม่ได้เลย ในขณะที่บางคนใช้ภาษาได้เป๊ะทุกด้าน เพื่อนๆชาวบล๊อกลองคิดตามดูสิคะ ว่า คนกลุ่มไหนที่เป๊ะที่สุด แค่นี้ก็รู้แล้วว่าใครได้เปรียบที่สุด
      

       เพราะฉะนั้นบล๊อกเกอร์ขอนำบทความจากพี่มิ้นท์คนเก่งจากเว็บเด็กดีดอทคอม ที่สรุปเทคนิคพัฒนาการเรียนภาษาอังกฤษ 3 พาร์ทมาฝากเพื่อนๆ นั่นก็คือ พาร์ทแกรมม่า คำศัพท์ และบทสนทนาค่ะ
  .....มาเปิดใจอ่านและเรียนรู้เทคนิคดีๆจากพี่มิ้นท์ไปพร้อมๆกันเลยคะ!!...



  5 เทคนิคเก่ง Grammar  
- พื้นฐานง่ายๆ ต้องแม่น

           ภาษาอังกฤษก็เหมือนภาษาไทย ที่จำเป็นต้องรู้พื้นฐานก่อน คำนาม คำกริยา คำวิเศษณ์ กริยา 3 ช่อง พื้นฐานพวกนี้ถือว่าจำเป็นมากๆ สำหรับการเรียนแกรมม่าเลยก็ว่าได้ เพราะต้องใช้ต่อยอดแกรมม่าเรื่องอื่น จะเรียนเรื่อง Tense แต่ละ Tense ก็ใช้ Verb คนละช่อง ก็ต้องรู้จักเลือกใช้ให้ถูก เป็นต้น



    - กฎเหล็ก ข้อยกเว้น ต้องจำได้
            หลายคนตกม้าตายเรื่องข้อยกเว้น แกรมม่าเป็นเรื่องของหลักภาษาที่ค่อนข้างซับซ้อน กำหนดมาเป็นอย่างดีว่าต้องใช้แบบนี้ๆ แต่สุดท้ายก็จะมีข้อยกเว้นแปะท้ายให้ปวดกบาลคนเรียนเล่นๆ ยกตัวอย่างง่ายๆ นะคะ การเปลี่ยนคำนามเอกพจน์ให้เป็นพหูพจน์ เรียนกันมาว่าให้เติม s, es ถ้าลงท้ายด้วย o ให้เติม es ได้เลย แต่ก็มีข้อยกเว้น อย่างเช่น photo สามารถใช้ photos ได้เลย ไม่ใช่ photoes เป็นต้น
    - มีตัวอย่างเสริม
            แกรมม่าภาษาอังกฤษมีเยอะพอๆ กับหลักภาษาไทย จะให้ท่องจำแต่หลักหรือโครงสร้างก็น่าเบื่อเกินไป ลองวิธีนี้สิคะ หาตัวอย่างประโยคของหลักนั้นๆ เป็นโมเดลประโยค ท่องจำจะได้ง่ายขึ้นค่ะ ประมาณว่าคิดถึงโครงสร้างนี้ ท่องประโยคนี้ขึ้นมา ก็จะรู้ได้ว่าโครงสร้างมันเป็นยังไง ก็เหมือนกับเราท่องเสียงลือเสียงเล่าอ้าง เป็นต้นแบบของโครงสี่สุภาพนั่นเอง

    - อ่านเองไม่รู้เรื่อง ต้องเข้าใจตั้งแต่ในห้องเรียน
            ถ้ารู้ตัวว่าเรียนรู้อะไรช้า ยิ่งเป็นแกรมม่ายากๆ อ่านเองไม่เข้าใจ ก็ควรตั้งใจเรียนตั้งแต่ในห้องเรียน เพราะอาจารย์แต่คนจะมีเทคนิคการจำแตกต่างกัน ฟังให้เข้าใจตั้งแต่ในคาบและจดเทคนิคการจำไว้ด้วย กลับมาอ่านเองทีหลังจะได้ง่ายขึ้น


    - อัพเกรดอ่านหนังสือภาษาอังกฤษ
             วิธีนี้ถือว่าได้ประโยชน์ระยะยาวค่ะ หัดอ่านหนังสือเรื่องสั้น นิยาย หนังสือพิมพ์ ที่เป็นภาษาอังกฤษ หรืออ่านข่าวจากเว็บไซต์ต่างประเทศก็ได้ สื่อพวกนี้เราได้ทั้งศัพท์แปลกๆ ใหม่ๆ ยังได้เรียนรู้แกรมม่าด้วย

  5 เทคนิคเก่ง Vocabulary
   

 - มองทุกอย่างเป็นศัพท์ภาษาอังกฤษ

           ทางลัดอย่างนึงของการรู้คำศัพท์เยอะคือการทบทวนบ่อยๆ แต่บางคนไม่มีเวลามานั่งท่องศัพท์ตลอดเวลา ไม่มีแรงกระตุ้นด้วย ก็ลองใช้วิธีนี้ดูค่ะ คือ มองทุกอย่างให้เป็นภาษาอังกฤษ เดินไปตลาด เจอของตามทางก็นึกเป็นศัพท์ภาษาอังกฤษ อันไหนไม่ได้ ก็จำไว้แล้วมาเปิดดิคชันนารีที่บ้าน

   
 - หาคำควบคู่ หรือ ตรงข้ามไว้ด้วย
          เป็นการเรียนรู้ศัพท์แบบก้าวกระโดดค่ะ คือ รู้ศัพท์คำนึงแล้ว ให้หาคำศัพท์ที่ความหมายเหมือนกันและตรงข้ามกันมากองเป็นกลุ่มคำไว้ เวลาท่องจำทีนึงจะได้ไปพร้อมๆ กันทีเดียว เราก็ได้ศัพท์มากขึ้นในเวลาที่น้อยลง

     - crossword puzzle

          เป็นเกมที่หลายคนคงเคยเล่น แต่เล่นเป็นภาษาไทย เกมนี้วัดความรู้คำศัพท์อย่างแท้จริงเลยค่ะ ลักษณะเกม คือ เป็นตารางคำศัพท์ มีช่องตามพยัญชนะของคำต่อกันหลายๆ คำ แล้วเราก็มาอ่านคำอธิบายด้านล่าง จากคำอธิบายต้องนึกให้ออกว่าเป็นคำว่าอะไร ฝึกเกมนี้บ่อยๆ ได้ฝึกทั้งเรื่องคำศัพท์และแปลความด้วยค่ะ

    - เตรียมสมุดจดศัพท์ที่ไม่คุ้นเคย
           เพิ่มสมุดจดศัพท์ลงในกระเป๋าอีกชิ้นคงไม่หนักอะไรมากนะคะ เอาไว้จดคำศัพท์ที่เราไปเจอมาแล้วไม่รู้ความหมาย เพื่อที่ว่ากลับมาบ้านมาก็หาความรู้เพิ่ม จดทุกวันๆ สมุดเล่มนี้จะเหมือนคัมภีร์คำศัพท์ที่คัดมาแล้วว่าเราเจอในชีวิตประจำวันจริงๆ

   
 - ฝึกสร้างประโยคจากศัพท์

          คล้ายกับเทคนิคเรียนแกรมม่า แต่เพิ่มสกิลการเขียนอีกนิดนึง น้องๆ สามารถหาตัวอย่างประโยคแกรมม่าจากหนังสือเรียนได้ แต่การสร้างประโยคจากคำศัพท์ แนะนำให้น้องๆ ฝึกแต่งประโยคขึ้นมาเอง จะเริ่ดมากค่ะ

  5 เทคนิคเก่ง Conversation & Speaking
    - อย่ากลัวพูดผิด
            ความกลัวทำให้เราไม่กล้า และการที่เราพูดผิดก็ไม่ได้ทำให้โลกแตกซะหน่อย ดีไม่ดี คู่สนทนาเราอาจจะอยากช่วยเหลือเราก็ได้ ก็เหมือนกับฝรั่งมาพูดภาษาไทยผิดๆ ถูกๆ ฟังดูน่ารักกรุ้มกริ่ม อยากให้ความช่วยเหลือ ซึ่งฝรั่งหลายคนเรียนรู้ภาษาที่สามได้เร็วมาก เพราะมีความกล้านั่นเอง

 
   - หาตัวช่วยฝึกออกเสียง
          สำเนียงการพูดอาจจะไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่ถ้าสำเนียงเป๊ะ ก็เป็นประโยชน์ต่อการสื่อสาร เราและคู่สนทนาก็ฟังกันเข้าใจมากขึ้น เพราะบางครั้งไม่ใช่แค่สำเนียงที่ฟังยาก แต่การออกเสียงคำอาจจะผิดด้วย ดังนั้นต้องหาตัวช่วยเพื่อการออกเสียงที่ดีของเราค่ะ เช่น ทอล์คกิ้งดิคชันนารี หรือจะเปิดดิคบนเว็บแล้วกดรูปลำโพงเพื่อฟังเสียง หรือทางลัดสุดคือ หาเพื่อนชาวต่างชาติมาคุยด้วยซะเลย จะได้ฝึกอย่างเต็มที่ ไม่ต้องมานั่งอายเวลาออกเสียงด้วย

 
   - อย่านึกเป็นภาษาไทย
         น้องๆ คงเคยได้ยินคำว่า ฝึกคิดแบบฝรั่งจะได้พูดแบบฝรั่ง อันนี้เป็นเรื่องจริงเลยค่ะ เพราะการที่เราคิดเป็นภาษาไทยทำให้เรายึดติดกับไวยากรณ์ภาษาไทย นั่งคิดศัพท์ที่ตรงกับภาษาไทยเป๊ะๆ ทำให้ช้าและสำนวนที่ออกมาจะดูฝืนๆ ด้วยค่ะ

   
 - ก่อนพูดต้องฝึกฟังด้วย
         แม้เราจะฝึกพูด แต่ก็อย่าลืมให้ความสำคัญกับการฟัง การฟังไม่ว่าจะเป็นจากคนที่เราคุยด้วย หรือ การดูตามสื่อต่างๆ จะช่วยรู้จังหวะการพูด การเลือกใช้คำพูดตามสถานการณ์ และที่สำคัญถ้าสนทนากับคนอื่นจริงๆ การฟังจะช่วยให้เราคุยกันถูกเรื่อง ไม่ใช่สักแต่ว่าพูด พูดกันคนละเรื่องก็จะพูด จะทำให้คู่สนทนาเบื่อเราค่ะ



    - ดูหนังฝรั่งที่บ้าน ฝึกพูดตาม
         วิธีนี้เบสิคและน่าทำตามที่สุด แถมยังฝึกคนเดียวได้ด้วย เหมาะสำหรับคนที่ต้องการฝึกพูดจริงๆ ค่ะ เลือกซื้อซีดีหนัง soundtrack แนวที่เราชอบดู แรกๆ เปิดดูแบบมีซับไตเติ้ลไปก่อน รอบสองรอบสามก็ฟังแบบไม่มีซับและฝึกพูดตามเสียงที่ได้ยิน ที่พี่มิ้นท์บอกว่าวิธีนี้น่าทำตามที่สุด เพราะเมื่อต้องการฝึกภาษาจริงๆ เราสามารถกด pause เพื่อฝึกพูดตามได้นั่นเอง
      เป็นอย่างไรบ้างค่ะ เพื่อนๆชาวบล๊อกเกอร์ชอบวิธีไหน ถนัดวิธีไหน ลองไปฝึกกันนะคะ การเรียนภาษาที่สามให้เก่ง ไม่ได้ฝึกกันวันสองวัน ซื้อก็ไม่มีขาย อยากได้ต้องฝึกกันเองค่ะ บางคนเสียตังค์ไปหลายหมื่นแต่ไม่มีความพยายามพอก็ไม่ได้ผลเหมือนกัน ในขณะที่บางคนไม่ได้เสียตังค์สักบาท แต่สู้อุตส่าห์หาความรู้ในเน็ตก็เก่งได้
       สุดท้ายนี้อยากฝากข้อคิดดีๆอย่างที่พี่มินท์ได้บอกไว้ว่า
 "วิธีการ" ไม่สำคัญเท่า "ความพยายาม" นะคะ แต่ถ้ามีวิธีการที่ดี + ความพยายามที่มากพอ เชื่อว่ามันจะออกมาดีมากๆ ค่ะ เจ้าของบล๊อกเกอร์หวังว่าบทความชุดนี้จะมีประโยชน์ต่อเพื่อนๆที่ได้แวะเข้ามาอ่านไม่มากก็น้อย

                                                  สู้ๆ นะคะทุกคน



ขอขอบคุณข้อมูลดีจาก พี่มิ้นท์ ผู้ดูแลบทความนี้ >>http://www.dek-d.com/education/37384/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น